5 เทคนิคใช้ Google Trends เพื่อการทำคอนเทนต์ แบบตรงใจคน รู้ไว้ไม่มีเอาต์!

Google Trends

เรากำลังอยู่ในโลกที่ท่วมท้นไปด้วยข้อมูล กิจกรรมทุกก้าวย่างบนโลกออนไลน์กลายเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างที่ไม่เคยไม่เคยมีมาก่อน แม้แต่การทำคอนเทนต์ ที่แต่เดิมถูกมองว่าเป็นงานสร้างสรรค์ล้วน ๆ ก็ได้ประโยชน์จากข้อมูลจำนวนมากเหล่านี้เช่นกัน

สำหรับแบรนด์ที่อยากอัปเกรดการทำคอนเทนต์ของตัวเองด้วยการใช้ข้อมูล Google Trends จัดว่าเป็นเครื่องมือเบื้องต้นที่ช่วยให้เราสามารถเปลี่ยนงานคอนเทนต์ให้มีความ data-driven มากยิ่งขึ้น

ยกตัวอย่างง่าย ๆ หากต้องการวางแผนการปล่อยคอนเทนต์ในช่วงปลายปี ถ้าเป็นก่อนหน้านี้ เราก็จะต้องอาศัยการสังเกตหรือคาดการณ์ว่ามีเรื่องอะไรที่คนจะสนใจในช่วงเวลานั้น แต่ด้วย Google Trends เราสามารถเข้าถึง “ข้อมูลจริง ๆ” ที่บอกได้ว่าในช่วงปลายปีก่อน ๆ คนสนใจเรื่องอะไรบ้าง นี่คือหนึ่งตัวอย่างที่เครื่องมือชิ้นนี้ช่วยสร้างความได้เปรียบในการทำงานด้านคอนเทนต์ได้ 

คงเห็นกันแล้วว่าข้อมูลมีประโยชน์ไม่น้อยในงานนี้ คำถามก็คือเราจะหยิบเอาข้อมูลเข้ามาใช้ได้อย่างไร บทความนี้จะพาทุกท่านไปพบกับการนำศาสตร์แห่งข้อมูลไปใช้ในศิลปะแห่งการสร้างสรรค์คอนเทนต์ด้วยเครื่องมืออย่าง Google Trends ถึงตรงนี้แล้วอย่างรอช้า เรามาเริ่มกันเลย!

Google Trends

รู้จัก Google Trends

Google Trends คือเครื่องมือรวบรวมว่าคีย์เวิร์ด (หรือคำ) แต่ละคำที่คนเสิร์ชหาผ่าน Google มีปริมาณมากน้อยแค่ไหน โดยเราสามารถตรวจสอบลึกลงไปได้อีกว่าแต่ละคีย์เวิร์ดมีปริมาณการเสิร์ชหามากน้อยแค่ไหนในแต่ละเวลา (เช่น เจาะจงช่วงปลายปี หรือดูเป็นรายวัน) แต่ละจังหวัด หรือแต่ละประเทศ ซึ่งข้อมูลตรงนี้มีประโยชน์อย่างมากในการวางแผนการทำคอนเทนต์

Google Trends

คีย์เวิร์ด ‘กองทุนลดหย่อนภาษี’ ได้รับความสนใจมหาศาลในช่วงปลายปี 2022 (25-30/12/2022)

เทคนิคการใช้ Google Trends ในงานคอนเทนต์ ที่ธุรกิจต้องรู้!

  1. ใช้หา Insight ที่เราอาจมองข้าม

Google Trends มีฟีเจอร์สำรวจ (Explore) คีย์เวิร์ดต่าง ๆ โดยแยกดู (filter) การค้นหาภายใต้เงื่อนไขต่าง ๆ ว่ามีปริมาณเป็นอย่างไรได้ เช่น กำหนดช่วงเวลา หรือแยกตามหมวดหมู่เนื้อหา 

ในบางครั้งเราอาจพบข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจ อย่างการที่ผู้คนมักจะค้นหาคำว่า ‘กองทุนลดหย่อนภาษี’ ในช่วงปลายปี นอกจากนี้ เรายังค้นหาได้อีกว่าคีย์เวิร์ดแบบไหนที่คนสนใจในแต่ละหมวดหมู่คอนเทนต์ (เช่น การจัดการการเงิน) และข้อมูลเชิงลึกตรงนี้เองที่เป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการทำคอนเทนต์

Google Trends

ฟีเจอร์สำรวจ (Explore) สามารถกรองคีย์เวิร์ดได้ตามสถานที่ ช่วงเวลา และหมวดหมู่คอนเทนต์

  1. ใช้ทำ Keyword Research ให้คอนเทนต์ติด SEO

Search Engine Optimization (SEO) หรือการทำให้คอนเทนต์ติดอันดับการค้นหาในหน้าแรก ๆ ของ Google เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญของการทำคอนเทนต์เพราะจะช่วยทำให้แบรนด์ถูกรับรู้ได้มากขึ้น และยังเป็นการเสริมสร้างความน่าเชื่อถือให้แบรนด์ไปในตัว

Google Trends เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้เราสามารถเปรียบเทียบได้ว่าคีย์เวิร์ดไหนที่ทรงพลังกว่าและมีโอกาสที่คนจะเสิร์ชหาได้เยอะกว่า

Google Trends

แม้ ‘กองทุนลดหย่อนภาษี’ จะเป็นคำที่ถูกต้องแต่จะเห็นว่า ‘กองทุนภาษี’ เป็นคำที่คนเสิร์ชหามากกว่า

  1. ใช้หาประเด็นที่เป็นกระแส สำหรับทำคอนเทนต์เรียลไทม์

อีกหนึ่งส่วนสำคัญของการทำคอนเทนต์ในยุคนี้คือการทำคอนเทนต์แบบเรียลไทม์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออัลกอริธึมมีแนวโน้มที่จะผลักดันคีย์เวิร์ดที่กำลังเป็นที่สนใจอยู่แล้วให้ดังขึ้นไปอีก ซึ่ง Google Trends เองก็มีฟีเจอร์ประเด็นฮิตปัจจุบัน (Trending Now) สำหรับเกาะติดว่าเรื่องไหนที่คนกำลังให้ความสนใจบนโลกออนไลน์

Google Trends

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2023 คนกำลังฮือฮากับเรื่องที่ร้าน Farm Design ยุติการให้บริการ

  1. ใช้หาข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

ในงานคอนเทนต์เองก็มีเรื่องที่ต้องตัดสินใจไม่น้อยอยู่เหมือนกัน เช่น การวางแผนการปล่อยคอนเทนต์ และ Google Trends ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับการดึงข้อมูลมาใช้ 

ยกตัวอย่างให้ชัดเจนเช่น เราสามารถจัดแผนการปล่อยคอนเทนต์ 1 ปี โดยอ้างอิงเรื่องที่คนสนใจบนโลกออนไลน์ในแต่ละเดือนของปีก่อน ๆ ได้ นอกจากนี้ หากต้องการทำตลาดแบบเจาะภูมิภาคหรือจังหวัด เราก็สามารถเข้าถึงข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ได้เช่นกัน

  1. ใช้สร้างคอนเทนต์ที่เป็นอมตะ (Evergreen)

ในงานคอนเทนต์จะมีคำ 2 คำที่เป็นขั้วตรงข้ามกันแต่ก็สำคัญพอ ๆ กัน คือ Real-time Content (คอนเทนต์เกาะกระแส) และ Evergreen Content (คอนเทนต์ที่เนื้อหาไม่มีวันเก่า) 

ก่อนหน้านี้ เราพูดกันไปแล้วว่าเครื่องมือนี้สามารถช่วยหาเทรนด์ที่กำลังได้รับความสนใจได้ แต่ที่จริงแล้ว Google Trends ก็สามารถช่วยทำ Evergreen Content ได้เช่นกัน ผ่านการค้นหาประเด็นพิสูจน์แล้วว่าคนจะสนใจในระยะยาว เช่น 5 ปี เป็นต้น

สรุป

เราเคยเข้าใจกันว่าการสร้างคอนเทนต์เป็นเรื่องของศิลปะหรือความสร้างสรรค์ล้วน ๆ แต่การก้าวเข้าสู่ยุคสมัยแห่งข้อมูลทำให้ธุรกิจต้องคิดใหม่ว่าการสร้างคอนเทนต์เป็นทั้งเรื่องของศาสตร์ (ของข้อมูล) และศิลป์ (ของคอนเทนต์) ในขณะเดียวกัน และ Google Trends เองก็เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่จะช่วยให้งานคอนเทนต์ถูกขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากยิ่งขึ้น ช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าไปนั่งในใจคนด้วยคอนเทนต์ที่ ‘ตรงเป้า’ กว่าที่เคย

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *